4 หนุ่มบอยแบนด์อย่าง Nice 2 Meet U สังกัดค่ายร็อคสกิน กับอัลบั้มใหม่ของพวกเค้า “Nice 2 Meet U” ทั้ง เชน ธนา ลิมปยารยะ , แจ๊ค จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม , ปั้นจั่น กวิน อิ่มอโนทัย และ เต้ พงศ์ธร วนะเกียรติกุล ซึ่งทั้ง 4 หนุ่มหน้าใสมาเล่าถึงการทำอัลบั้มนี้ให้ฟังว่า
แนะนำตัวกันหน่อย ใครชื่ออะไรบ้าง ?
- รวม : สวัสดีครับพวกเรา Nice 2 Meet U ครับ
- ปั้นจั่น : ผมปั้นจั่น Nice 2 Meet U ครับ
- เชน : ผมเชน Nice 2 Meet U ครับ
- แจ๊ค : ผมแจ็ค Nice 2 Meet U ครับ
- เต้ : ผมเต้ Nice 2 Meet U ครับ
ทั้ง 4 คนมารวมตัวกันได้ยังไง ? - ทางบริษัทฯ มีโปรเจ็คบอยแบนด์ขึ้นมา พวกเราก็เข้ามาถ่ายรูปเทสต์เสียงแล้วคัดมาหลาย ๆ คนจนเหลือ 50 คนแล้วก็มาคัดเหลือ 10 คน จาก10 คนก็มาอัดเสียงก่อนแล้วก็มาถ่ายรูปดูลุคส์ดูความเหมาะสมพอเลือกมาได้ 4 คนก็ยังไม่ได้การันตีว่าจะได้ทำอัลบั้มต้องเข้ามา Final Test และให้ค่ายเข้ามาเลือกตัวก่อนทำโปรเจ็คครับ
ทั้ง 4 คน เข้ามาสมัครเองหรือเปล่า ?- ปั้นจั่น : ไม่ใช่ครับแต่ละคนจะเข้ามาไม่เหมือนกันของปั้นจั่นก็ไปงานบายเนียร์แล้วไปเจอรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งรู้จักกับพี่ที่อยู่ฝ่ายแคสติ้งของบริษัทแล้วตอนนั้นมีโปรเจ็คบอยแบนด์พอดีเค้าก็เลยชวนปั้นจั่นเข้ามาเทสต์เสียงและถ่ายรูปไว้ตอนแรกก็ไม่ได้หวังอะไรแต่พอผลออกมาคือติด 1 ใน 10 ก็เลยได้มาเจอเพื่อน ๆ
- เชน : ของเชนจริง ๆ เข้าอาร์เอสมาตั้งแต่ม.5 ได้ประมาณ 4 ปีที่แล้วตอนนั้นไปเจอพี่ที่เป็นแมวมองที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้าแล้วก็ได้มาถ่ายปกนิตยสารแล้วก็มาถ่ายเอ็มวีจนทางบริษัทเลือกเข้ามาร่วมในโปรเจ็คนี้อีกทีครับ
- แจ๊ค : ของแจ็คได้เข้ามาเพราะตอนปี 1 ได้ไปรู้จักกับพี่จูฝ่ายแคสติ้งแล้วเค้าก็เรียกเข้ามาทำประวัติหลังจากนั้นประมาณ 1 ปี พี่จูก็ติดต่อมาอีกว่าจะมีโปรเจ็คบอยแบนด์แล้วก็ได้เข้ามาเจอกับเพื่อน ๆ ครับ
- เต้ : ส่วนเต้ก็รู้จักกับพี่โป้งฝ่ายแคสติ้งเค้าเรียกให้เข้ามาเทสต์ดูแล้วก็ได้มาทำโปรเจ็คนี้ครับ ในช่วงที่เค้าเอารูปมาเทียบกัน 10 คนนี่จะดูความแมทว่ามีตัวใหญ่ก็มีตัวเล็ก ตอนแรกก็จะมาอัดเสียง ถ่ายรูป สุดท้ายเค้าก็มาเลือกพวกเราอีกทีหนึ่งครับ
แล้วมารู้จักกันทั้ง 4 คนนี่ใช้เวลานานหรือเปล่า ?
- ปีกว่าครับ แต่ปั้นจั่นกับเต้จะรู้จักกันมาก่อนตอนไปแคสโฆษณาครับ
ปรับตัวเข้าหากันยากหรือเปล่า ? - ช่วงแรก ๆ ยากครับเป็นธรรมดาที่เอา 4 คนมารวมตัวกันเพราะนิสัยแต่ละคนต่างกันคนละขั้วเลย เวลาอยู่ด้วยกันก็มีจูนกันบ้างครับ อย่างปั้นจั่นจะเป็นขาลุยครับง่าย ๆ สบาย ๆ เป็นคนไม่มีฟอร์มครับ เชนจะเป็นคนนิ่ง ๆ วัน ๆ อ่านหนังสือเรียน เล่นอินเตอร์เน็ท ทุกอย่างจะดูเรียบ ๆ แต่พอสนิทกันแล้วจะขี้เล่น พูดมาก ส่วนแจ็คถ้าไม่รู้จักกันมาก่อนแจ็คจะนิ่ง ๆ บางคนอาจจะมองว่าหยิ่งแต่จริง ๆ ถ้าไม่สนิทก็ไม่รู้จะพูดอะไรก็จะยิ้มไว้ก่อนแต่พอสนิทกันแล้วก็จะยิ้ม เล่น ส่วนเต้จะเป็นคนซีเรียสกับงานครับ พอไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่บ้านแจ็คประมาณ 5 เดือนเพื่อให้สนิทกันให้เข้าใจกันมากขึ้นจะได้ไม่ต้องมีปัญหาทีหลัง พอเราอยู่ด้วยกัน 4 คนตอนนั้นทุกอย่างก็กดดันเข้ามาด้วยทั้งเรื่องสอบ เรื่องFinal Test เวลาซ้อมก็ไม่มีเวลาอ่านหนังสือก็ไม่มีอีกพวกเราเลยตัดสินใจไปรวมกันบ้านแจ็ค เลยทำให้เห็นแง่มุมของแต่ละคนว่าเค้ามีส่วนที่เหมือนกับเรานะแล้วเราก็มีส่วนที่คล้ายเค้าพอมาอยู่ด้วยกัน ถ้าไม่เข้าใจกันเราก็มานั่งคุยกันจนมันกลายเป็นผูกพันมีความสนุกด้วยกัน อยู่ด้วยกันมันแฮปปี้ พวกเราเลยจูนเข้าหากันได้ครับ
แล้วทำให้การทำงานง่ายขึ้นหรือเปล่า ? - ง่ายมากครับ หลังจากนั้นเราจะตั้งกฎ 3 1 คือถ้าใครคนนึงทำผิดแล้วที่เหลือเห็นว่ามันผิดจริงคน ๆ นั้นก็ต้องยอมรับครับและห้ามเถียงเลยเพราะเราใช้หลักประชาธิปไตย
ส่วนมากใครผิดบ่อยที่สุด ? - ยังไม่มีครับ
เรื่องงานมีบ้างหรือเปล่าที่ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ?
- เรื่องงานจริง ๆ มันก็จะมีเรื่องเต้นที่จะมีรอกันบ้างแต่มันยังไม่ถือว่าเป็นปัญหาครับ
ตอนอยู่รวมกันมีอะไรที่ทำร่วมกันแล้วประทับใจบ้าง ? - ที่ประทับใจที่สุดเลยคือตอนเปิดใจช่วงที่เรามานั่งคุยกัน4 คน พอเรามานั่งคุยกันเราก็พูดตรง ๆ เลย ทุกคนไม่โกรธไม่ทะเลาะกันมันเคลียร์ครับแล้วสิ่งที่บอกกลับเป็นสิ่งที่ดีเหมือนเรารู้ว่าที่ผ่านมาทำไมเค้าถึงนิ่ง
มีจุดที่ไม่ไหวแล้วหรือเปล่า ?- มีครับจะรู้สึกกดดันตลอดเวลาแล้วช่วงนั้นต้องอาศัยการซ้อมมาก ๆ สุดท้ายพวกเราก็ไปอยู่รวมกันต้องพากันไปให้ได้ เราถึงจะสู้กับคนอื่นได้
ปัญหาเกิดมาจากจุดไหนบ้าง ? - เกี่ยวกับเรื่องเต้นซึ่งเชนจะเรียนหนักเราต้องเข้าเรียนด้วยแล้วเวลาซ้อมก็ไม่มี ปกติถ้าวันไหนไม่ว่างก็จะไม่เข้าบริษัทพอเต้นไม่ได้ก็จะกดดันตัวเองครับว่าทำไมเพื่อนเต้นได้ ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้คุยกันจะเก็บไว้คนเดียวเครียดจนไม่ไหวเลยมาพูดกัน มาอยู่รวมกันพอไปอยู่ด้วยกันเพื่อน ๆ ก็ช่วยกันซ้อมจนออกมาเป็นวิดีโอยื่นบอร์ดแล้วผ่านครับมันเป็นสิ่งที่น่าประทับใจ ถ้าวันไหนใครที่ติดเรียนหรือมีธุระก็จะส่งตัวแทนเข้ามาเรียนแล้วกลับมาสอนกันที่บ้านครับ
มีการปรับตัวเยอะมั้ย แล้วยังคงเป็นตัวของตัวเองหรือเปล่า ? - เป็นครับแต่พออยู่ด้วยกันเหมือนมันเริ่มเห็นอะไรที่คล้าย ๆ กัน เริ่มรู้สึกว่าเราเข้าใจแต่ละคนมากขึ้น เหมือนกับว่าเรามองข้ามข้อเสียของคนอื่นได้เพราะมันไม่ใช่ข้อเสียที่เราจะรับไม่ได้เลย
รู้สึกยังไงบ้างพอได้รู้ว่าจะได้ออกอัลบั้ม ?
- คุณแม่พี่โปรดิวเซอร์เค้าเป็นคนขึ้นไปฟังผลและพวกเราซ้อมเต้นอยู่ข้างล่างพอวันนั้นรู้ผลแล้วเลิกเรียนเลยครับ ออกมาจากห้องเรียนยิ้มแย้ม กระโดดกอดกันเลยครับ หลังจากผ่านแล้วต้องซ้อมกันหนัก ทั้งเข้าห้องอัด ซ้อมเต้นหนักขึ้น พอรู้ว่าได้ออกก็ต้องมาลุ้นกันอีกว่าจะได้ออกเมื่อไหร่
แล้วรู้ว่าจะได้ออกเมื่อไหร่ ?- ประมาณธันวาครับ ตอนแรกเค้าวางไว้ว่าไม่เมษาก็สิงหา แล้วเราต้องซ้อมกันหนักกว่าเดิมอีกจนสุดท้ายก็ได้ออกช่วงนี้ครับ
แต่ละคนมีพื้นฐานอะไรมาบ้าง ? - พิ้นฐานของปั้นจั่นจะเล่นกีต้าร์ได้และเคยเรียนร้องเพลงมาบ้างสมัยอยู่โรงเรียนเก่าก็เคยตั้งวงดนตรีกับเพื่อน ของเชนนี่ก็จะฟังเพลงครับเพราะเชนเวลาพักเที่ยงก็จะอยู่ที่โต๊ะนั่งอ่านหนังสือ ฟังเพลง ก็จะฟังเพลงตั้งแต่เด็ก ๆ เลยครับ ของแจ็คด้วยความที่ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็เริ่มจากร้องเพลงการ์ตูนก่อนเพราะแจ็คชอบดูการ์ตูนก็ร้องซ้อมเองมาเรื่อย ๆ แต่ไม่ได้ซ้อมตามหลักวิธีการร้องเพลงที่ถูกต้องแต่ก็พยายามมาตลอดจนมาเริ่มเรียนร้องเพลงจริงจังประมาณปีกว่า แต่ก็พยายามซ้อมเองมาตลอดเพราะชอบที่จะยืนบนเวทีชอบที่จะร้องเพลงให้คนอื่นฟังเราจึงต้องซ้อมเพื่อให้การแสดงออกมาดีของเต้ก่อนที่จะเข้ามาเรียนร้องเพลง เต้น เต้ก็จะดูคอนเสิร์ตของนักร้องแล้วก็ซ้อมเต้นตามครับ
ในอัลบั้มนี้มีกี่เพลง ? - 6 เพลงครับ เพลงใจเกเรเป็นเพลงโปรโมทเพราะเพลงมันเป็นเพลงเอเชี่ยนป๊อป แล้วเป็นเพลงช้าด้วย แล้วเพลงนี้ก็บอกตัวตนของพวกเราได้ชัดเจนเลย คือคนที่ฟังจะรู้ได้เลยว่าพวกเราเป็นแนวเอเชี่ยนป๊อปฟังดนตรีแล้วจะรู้เลย
แต่ละคนชอบเพลงไหนมากที่สุด ? - เลิฟการันตีครับเพราะเป็นเพลงที่เราร้องด้วยกันแล้วก็เป็นเพลงที่แสดงออกถึงความเป็นตัวเราซึ่งเพลงนี้เป็นซิงเกิ้ลที่ 2 ครับแล้วเพลงนี้เป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากคือดึงความสดใสของทุกคนออกมาได้
ทำไมจึงเป็นเพลงแนวเอเชี่ยนป๊อป ? - ก็เป็นคอนเซ็ปของโปรเจ็คนี้ด้วยครับคนส่วนใหญ่คิดว่าเอเชี่ยนป๊อปเป็นแนวเกาหลี ญี่ปุ่น แต่ไทยเราก็อยู่ในเอเชี่ยนด้วยนะ แล้วเราต้องการให้ทุกคนทราบว่าเอเชี่ยนก็มีไทยอยู่ด้วยแต่เราก็ไม่ได้ไปเลียนแบบเค้า คือชื่อกับวงจะเป็นเอเชี่ยนป๊อปแต่เพลงทั้ง 6 เพลงของเราจะสื่อบุคลิกของแต่ละคนเราจะเน้นตัวตนของเราให้มากที่สุดครับ กว่าจะมาเป็นอัลบั้มนี้ทุกอย่างสร้างมาจากตัวของพวกเราจะมีทีมงานคอยเก็บภาพตลอดแล้วมาสรุปว่าแบบนี้คือตัวเรามากที่สุดครับ
แล้วเหมาะกับตัวของเราทั้ง 4 คนหรือเปล่า ?- เหมาะครับ เพราะก่อนที่เราจะได้เพลงพี่โปรดิวเซอร์จะถามว่าผมให้เพลงนี้กับคุณแล้วคุณแฮปปี้หรือเปล่าถ้าไม่แฮปปี้คุณก็จะร้องออกมาไม่ดีแน่นอนเราจะมานั่งคุยกันตลอดแล้วจะไปนั่งคุยกับโปรดิวเซอร์ครับว่าอดีตที่ผ่านมาประสบการณ์ความรักเป็นยังไงบ้าง เจออะไรมาบ้าง ผิดหวัง สมหวังยังไง ชีวิตเป็นยังไงชอบแบบไหน คุยแล้วก็แต่งใหม่เลยครับ
ทำไมถึงใช้ชื่อว่า Nice 2 Meet U ? - Nice 2 Meet U มันเป็นคำพูดที่เราพูดกันว่าเรายินดีที่ได้รู้จักคุณนะ ซึ่งมันเป็นความรู้สึกของเราที่เราอยากจะแสดงให้รู้ว่าเราอยากรู้จักกับทุก ๆ คนนะ เราก็หวังว่าทุกคนยินดีที่ได้รู้จักกับเราเหมือนกันครับ
คาดหวังกับอัลบั้มนี้ยังไงบ้าง ?- ตอนแรกที่พวกเราเข้ามามันมีความคาดหวังสูงพอเราตั้งเป้าไว้สูงแล้วไม่ได้จะรู้สึกแย่มาก ๆ เราเลยคิดว่าเราจะไม่คาดหวังสูงครับเราจะไปเรื่อย ๆ พวกเราจะทำให้ดีที่สุดค่อย ๆ ก้าวไปด้วยกันครับ
อยากฝากอะไรถึงแฟน ๆ บ้าง ?- ก่อนอื่นก็ขอบอกว่า Nice 2 Meet U ยินดีที่ได้รู้จักกับทุกคนครับแล้วก็ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้มาตั้งแต่ตอนแรกที่เข้ามาจนถึงตอนนี้ พวกเราประทับใจจริง ๆ แล้วก็อยากให้ทุกคนมารู้จักกับพวกเราแล้วจะรู้ว่าพวกเราเป็นยังไงเพราะยังมีหลายช่องทางที่จะรู้จักกับเราและก็ฝากผลงานเพลงทั้ง 6 เพลงให้ติดตามกันด้วยเพราะมันมาจากตัวตนของพวกเราทั้ง 4 คนอย่างแท้จริงและขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนที่สนับสนุนพวกเรามาตลอดสามารถร้องเพลงเราได้ ทำทุกอย่างให้พวกเรา พวกเราขอบคุณจริง ๆ ครับ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น